สถานการณ์เศรฐกิจลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 2 เขี่อนหลักยังรับน้ำไหลเข้าอ่าง อย่างต่อเนื่องแล้วทุกวัน โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล-น้ำเขื่อนขุนด่าน มีปริมาณน้ำไหลลากเข้ามา 88.48-55.43 ล้าน ลบ.ม./วัน ทำให้เห็นว่า ลำน้ำเหนือเขื่อนยังมีปริมาณน้ำเหลืออยู่อีกมาก ซึ่งทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ
ส่งผลให้เขื่อนขุนดานปราการชล มีน้ำในเขื่อนกักเก็บอยู่ถึง 113% ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำออกวันละอย่างมาก ปล่อยน้ำออกใกล้เคียงกับปริมาณน้ำไหลลงอ่าง โดยจะผ่านเขื่อนพระรามหกน้ำที่ระบายออกมาในปริมาณที่หลายล้านลูกบาทเมตร แล้วยังเข้ามา มาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ท่วมในหลายพื้นที่ทำไม่สามารถทำการระบายน้ำได้ทันพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีจังหวัด ลพบุรี-สระบุรี-แล้วยังมีฝั่งตะวันออกใต้เกาะเมืองอยุธยาลงมาอีกด้วยที่ได้รับผลกระทบกับมวลน้ำที่ได้ปล่อยระบายออกไป
ในขณะที่เขื่อนภูมิพล ถึงมีปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 78.38 ล้าน ลบ.ม. แต่เขื่อนยังคงเก็บกักน้ำไว้ ทำให้ปริมาตรน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นไปถึง 11,218 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่าง การเก็บกักน้ำดังกล่าวโดยที่จะไม่มีการระบายออกมาเนื่องด้วยเกรงจะไปเป็นการ “ซ้ำเติม” สถานการณ์น้ำท่วมไล่ลงมาตั้งแต่บริเวณนครสวรรค์ไปจนกระทั่งถึงกรุงเทพฯและปริมณฑล อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลยังไม่นิ่งนอนใจยังคงร่วมมือหาทางแก้แล้วรับมือกับน้ำที่จะไหลเข้าทำกรุงเทพอย่างเต็มที่น้ำท่วมครั้งน้ำเศษฐกิจย่ำแย่ลงเยอะแต่ทุกฝ่ายกำลังหาทางรับมืออย่างเต็มที่
เครดิต www.thairath.co.th