ตลาดการเงิน 3 เหตุผลว่าทำไมตราสารหนี้อาจจะเป็นการลงทุนที่ดีในปีหน้า

ตลาดการเงิน ประกอบด้วย   ,   ตลาดการเงิน คือ  ,  ตลาดการเงิน สรุป   ,  โครงสร้างตลาดการเงิน   ,   ตลาดการเงิน pdf ,  เศรษฐศาสตร์ตลาด การเงิน   ,   ตลาดการเงินในระบบ   ,   ตลาดการเงินระหว่างประเทศ

ตลาดการเงินใกล้จะผ่านพ้นไปสำหรับปี 2022 ซึ่งสำหรับเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินดูจะเป็นปีที่หนักหน่วงอยู่ไม่น้อย จากเรื่องของแรงกดดันเงินเฟ้อและแนวโน้มดอกเบี้ยตลาดการเงิน คือ ที่กดดันตลาดการเงินต่อเนื่อง และส่งผลวงกว้างไปยังการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทำให้ทั้งตราสารหนี้และตราสารทุนปรับตัวลดลงอย่างมากในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากมองข้ามไปยังปีหน้าที่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ น่าจะเริ่มแตกต่างออกไปในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน รวมถึงคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งภายใต้สภาพแวดล้อมที่น่าจะเป็นในปีหน้า ปัจจัยที่อาจจะสนับสนุนการฟื้นตัวของตราสารหนี้ประกอบไปด้วย 3 ประเด็นหลัก ดังนี้

ปัจจัยที่หนึ่ง ความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายการเงินน่าจะลดลง และหันมาโฟกัสเรื่องของเศรษฐกิจมากขึ้น ต้องยอมรับกันว่าในปีนี้เรื่องของแนวโน้มนโยบายการเงินและการสื่อสารของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะตราสารหนี้อย่างมาก การเปลี่ยนท่าทีในเรื่องของแรงผลักดันเงินเฟ้อและแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนของธนาคารกลางสหรัฐฯตลาดการเงิน ประกอบด้วย ทำให้ความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ที่การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มดอกเบี้ยมีส่วนโดยตรงและสำคัญต่อราคามากกว่าตราสารชนิดใดๆ โดยดัชนี Bloomberg Barclays Global Aggregate Bond Index ที่เป็นตัวสะท้อนการลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายชนิดในภาพรวม ในปีนี้ให้ผลตอบแทนติดลบมากถึง 17.6% (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 14 พ.ย. 65) เทียบกับในอดีตที่หากจะติดลบ ก็จะติดลบอย่างมากราวๆ 4-5% เท่านั้น (เช่น ในปี 1999, 2005 และปี 2021)ตลาดการเงิน

ตลาดการเงิน คือ

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนภาวะตลาดการเงินและความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขดังกล่าวไม่น่าจะส่งต่อไปยังปีหน้า เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน อาจจะอยู่ในช่วงท้ายของนโยบายดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว และประเด็นเรื่องของแนวโน้มเศรษฐกิจน่าจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆโครงสร้างตลาดการเงิน โดยเฉพาะเมื่อความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินลดลง ซึ่งดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วดูจะไม่สอดคล้องกับแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันมากนัก ปัจจัยที่สอง แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าจะชะลอตัวลงจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมากและสภาพคล่องส่วนเกินที่ลดลงจากการลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่างๆ โดยนักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2023 ของประเทศต่างๆ ลงอย่างต่อเนื่อง เช่น สหรัฐฯ จากในช่วงต้นปีที่เคยประมาณว่าในปีหน้าจะเติบโตได้ 2.5% เหลือเพียง 0.4% ในปัจจุบัน ยุโรป จาก 2.5% เป็น -0.1% หรือในภาพรวมของเศรษฐกิจโลกจาก 3.6% เป็น 2.3%

ซึ่งการปรับลดดังกล่าวส่วนใหญ่จะเกิดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่นโยบายการเงินเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน นอกจากนี้โอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวมากกว่าคาดก็ยังมีอยู่หากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อม ณ ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายการเงินที่ยังคงมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นอีก เรื่องของเงินเฟ้อที่แม้จะมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังวางใจไม่ได้เสียทีเดียว ซึ่งภาพรวมของการชะลอตัวตลาดการเงิน pdf ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดและความเร็วของการชะลอตัว จะส่งผลต่อกลุ่มการลงทุนในตราสารหนี้หลักทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) หุ้นกู้เอกชนในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade Bond) และกลุ่มที่ต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (High Yield) ในลักษณะที่แตกต่างกัน โดยแม้คาดกันว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกกันว่า Credit Spread อาจจะกว้างขึ้นในปีหน้า แต่ดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นมาในปีนี้น่าจะเพียงพอที่จะรองรับและไม่ทำให้ผลตอบแทนติดลบ

ตลาดการเงิน

ตลาดการเงินระหว่างประเทศ

ปัจจัยที่สาม ดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นมามาก ทำให้มีกระแสเงินสดรองรับความเสี่ยงในด้านอื่นๆ เพิ่มขึ้น และลดโอกาสในการขาดทุนลง ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ประกอบไปด้วยสองส่วน ได้แก่ (1) ดอกเบี้ยที่ได้รับ และ (2) การเปลี่ยนแปลงของราคาของตราสารหนี้ ซึ่งหากเราลงทุนตราสารหนี้ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้นั้นเศรษฐศาสตร์ตลาด การเงิน ทั้งสองส่วนจะมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อแนวโน้มผลตอบแทน โดยในส่วนแรก จากดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นมามากน่าจะทำให้การลงทุนในตราสารหนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยรองรับความเสี่ยงในด้านอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น และทำให้การลงทุนในกลุ่มนี้ต่างจากปีนี้อย่างชัดเจน ในขณะที่หากนโยบายการเงินเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายลงบ้าง จากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอตัวลง รวมถึงหากเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจริงๆ ก็อาจจะเป็นผลตอบแทนส่วนเพิ่มขึ้นได้อีก (ราคาของตราสารหนี้จะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับดอกเบี้ย) จากผลตอบแทนในส่วนที่สอง

สุดท้ายนี้ กลยุทธ์สำคัญสำหรับตราสารหนี้ในภาวะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้นตลาดการเงินในระบบ หนีไม่พ้นการเลือกลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดี เน้นลงทุนในกลุ่มที่มีอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำจนเกินไปนัก รวมถึงการกระจายอุตสาหกรรมและเลือกเพิ่มน้ำหนักในอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนหลังหากเราลงทุนโดยตรงก็อาจจะทำได้เอง หรือหากลงทุนผ่านกองทุนรวมก็จะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลในส่วนนี้ให้ แต่สุดท้ายเราก็ยังคงต้องเลือกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่เหมาะสม และบริหารน้ำหนักของกองทุนในกลุ่มนี้ให้เหมาะสมต่อไปครับตลาดการเงิน

 

ขอบคุณเครดิตจาก www.bangkokbiznews.com

 

 

ข่าวแนะนำ